(ใกล้) ถึงสุวรรณภูมิแล้ว! รถไฟฟ้าไร้คนขับ APM ความภาคภูมิใจของคนไทย และอินเตอร์ลิ้งค์
นายเอนก ธีระวิวัฒน์ชัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 ก.ค.63 ระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) หรือรถไฟฟ้าไร้คนขับ รุ่น Airval ที่จะนำมาให้บริการรับส่งผู้โดยสารระหว่างอาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบัน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) และอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 หรืออาคารแซทเทิลไลท์ (SAT 1)
โดยรถไฟฟ้าไร้คนขับ APM ดังกล่าว ส่งตรงมาจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย จะเดินทางมาถึงท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ประเทศไทย ถือเป็นความภาคภูมิใจของบริษัท “อินเตอร์ลิ้งค์ฯ” ที่จับมือร่วมกับ SIEMENS ในการจัดหาระบบรถไฟฟ้าขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) โดยลอตแรกนี้จะส่งมาก่อน 1 ขบวน จำนวน 2 ตู้ และเมื่อมาถึงจะเข้าสู่พิธีการของทางศุลกากร
นายเอนก กล่าวต่อว่า การรับมอบรถไฟฟ้าครั้งนี้ถือว่าล่าช้าจากแผนเดิมที่วางไว้ในช่วงประมาณเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เพราะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงต้องเลื่อนการส่งมอบออกไป อย่างไรก็ตามในวันที่ 11 ก.ค.นี้ ผู้บริหารของ ทอท. จะลงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อรับมอบรถไฟฟ้า ก่อนที่จะนำกลับมาเก็บไว้ภายในอุโมงค์ของอาคาร SAT 1 และในวันที่ 12 ก.ค. จะเริ่มนำมาวิ่งทดสอบระบบภายในอุโมงค์ทันที โดยจะวิ่งใต้ดินไปกลับระหว่างอาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบัน และอาคาร SAT 1 ซึ่งมีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินรถประมาณ 2 นาทีต่อเที่ยว สำหรับขบวนรถที่เหลือนั้น อยู่ระหว่างการประกอบ ซึ่งจะทยอยส่งมาให้โดยจะครบทั้งหมด 6 ขบวน 12 ตู้ ภายในปลายปีนี้ และพร้อมให้บริการผู้โดยสารในเดือน ก.ย. 64 โดยจะวิ่งสลับกันครั้งละ 2-3 ขบวน ส่วนอีก 1 ขบวนเก็บไว้ใช้สำรอง
สำหรับรถไฟฟ้าไร้คนขับ APM รุ่น Airval นี้ ผลิตในโรงงานที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย รถไฟฟ้าเป็นล้อยาง ยึดเกาะได้ดีในพื้นที่ลาดเอียง ให้เสียงค่อนข้างเงียบกว่าระบบรถไฟฟ้าอื่น ใช้ความเร็วการทำงานสูงสุดที่ 80 กม. ต่อชั่วโมง รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 210 คน ต่อขบวน หรือประมาณ 6,000 คน ต่อชั่วโมง
ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการนำรถไฟฟ้าไร้คนขับมาให้บริการรับส่งผู้โดยสารฟรีภายในสนามบิน และแน่นอนว่าเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับ “อินเตอร์ลิ้งค์ฯ” ที่ได้เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนและยกระดับสนามบินสุวรรณภูมิ ให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการบินในเอเชียที่มีศักยภาพในระดับสากล ด้วยความมุ่งมั่นตามปรัชญาของเราที่จะนำเทคโนโลยีมาพัฒนา สร้างความก้าวหน้าให้กับประเทศ