ILINK เปิดโผ กำไรไตรมาส 2/65 พุ่งแตะ 91.50 ล้านบาท จับตาคว้างานใหญ่เติม Backlog อัพไซส์ธุรกิจ
ILINK โกยรายได้ครึ่งปีแรกรวม 3,055.84 ล้านบาท พร้อมทำกำไรพีคต่อเนื่อง ล่าสุดเผยผลประกอบการไตรมาส 2/65 มีรายได้รวม 1,628.32 ล้านบาท และกำไรสุทธิพุ่งแตะ 91.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.21% ด้านยอดขายธุรกิจจัดจำหน่ายโตแรง 13.08% จับตารอเดินหน้าคว้างานใหญ่เติม Backlog คาดแนวโน้มทำกำไรสูงทะลุเป้า เร่งดันทุกธุรกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด
นางสาววริษา อนันตรัมพร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และผู้นำเข้า และค้าส่งอุปกรณ์เครือข่ายส่งสัญญาณ เปิดเผยว่า “ผลประกอบการไตรมาส 2/65 ของ ILINK มีรายได้รวม 1,628.32 ล้านบาท เติบโตขึ้น 37.11% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 91.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มั่นใจแนวโน้มรายได้และกำไรทะลุเป้าที่ตั้งไว้ รวมถึงเร่งผลักดันทุกธุรกิจภายใต้กลุ่มบริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ฯ ให้เติบโตอย่างทรงประสิทธิภาพ และตอบสนองกับกระแสยุคสมัยที่ขับเคลื่อนพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว”
ธุรกิจจัดจำหน่าย (Distribution) ไตรมาส 2/65 มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 574.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.08% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอัตราการเติบโตของยอดขายในงวดนี้มีความโดดเด่นต่อเนื่องและเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ปัจจัยสนับสนุนยังคงมาจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีโครงข่ายพื้นฐาน โดยเฉพาะอุปกรณ์ใช้สายซึ่ง ILINK เป็นผู้จัดจำหน่ายสายสัญญาณชั้นนำของประเทศไทยมายาวนานกว่า 30 ปี และมีการรับประกันที่ยาวนานที่สุดในตลาด จึงทำให้ลูกค้าทุกภาคส่วนเกิดความต้องการปรับปรุงระบบ และพัฒนาโครงข่ายให้มีคุณภาพมากขึ้น พร้อมตอบโจทย์การใช้งานอย่างถูกต้องเพื่อประสิทธิภาพและเสถียรภาพสูงสุด นอกจากนี้ กระแสของการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Cell) ยังมาแรงต่อเนื่อง ทำให้ในงวดนี้ยอดขายสินค้ากลุ่มสายโซล่า (Solar Cable) เติบโตขึ้น 63.41% ในขณะที่กลุ่มอุปกรณ์เครือข่ายส่งสัญญาณ (Networking) และกลุ่มสาย UTP (LAN Cable) เพิ่มขึ้น 22.12% และ 13.65% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า ตามลำดับ
ธุรกิจโทรคมนาคม (Telecom) ไตรมาส 2/65 มีรายได้จากการให้บริการรวม 842.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92.72% จากงวดเดียวกันของปีก่อน การเติบโตอย่างก้าวกระโดดนี้เป็นผลสำเร็จจากการต่อยอด New S-Curve ซึ่งผลักดันรายได้จากการให้บริการติดตั้งโครงข่ายพุ่งแตะ 484.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 403.31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยงานโครงการติดตั้งสำคัญที่รับรู้รายได้ในงวดนี้ คือ โครงการ Smart CCTV จำนวน 211.03 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ มีลูกค้าขนาดใหญ่เข้ามาใช้บริการโครงข่ายเพิ่มจำนวนมาก รวมถึงการขยายสาขาของลูกค้าเดิมก็ช่วยผลักดันให้รายได้จากธุรกิจนี้เติบโตดีต่อเนื่อง
ธุรกิจวิศวกรรม (Engineering) ไตรมาส 2/65 มีรายได้รวมอยู่ที่ 224.93 ล้านบาท ซึ่งมาจากการทยอยรับรู้รายได้งานโครงการของภาครัฐและภาคเอกชนที่สำคัญๆ ในมือ (Backlog) กว่า 10 โครงการ อาทิ โครงการจ้างเหมาก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำ 33 เควี เกาะปันหยี จังหวัดพังงา โครงการจ้างก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยในจังหวัดเชียงใหม่และสุพรรณบุรี โครงการ CC4 หรืองานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) เป็นต้น รวมถึงมุ่งเดินหน้าเติม Backlog ให้สำเร็จตามแผน โดยในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับงานจ้างก่อสร้างสถานีย่อยพุทธมณฑล มูลค่า 617.34 ล้านบาท และคว้าอีก 1 โครงการใหญ่ คือ งานจ้างก่อสร้างปรับปรุงสถานีไฟฟ้านนทรี จังหวัดปราจีนบุรี มูลค่า 314.80 ล้านบาท ซึ่งได้ลงนามสัญญาไปเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา อีกทั้งบริษัทฯ วางแผนทยอยปิดและส่งมอบงานโครงการอื่นๆ ในมืออย่างต่อเนื่อง และล่าสุด บริษัทฯ รอลุ้นผลประมูล คาดเตรียมคว้างานใหญ่ โครงการสายเคเบิลใต้น้ำเกาะเต่า มูลค่าอีกกว่า 1,700 ล้านบาท หนุน Backlog ยาวถึงปีหน้า เพื่อเสริมทัพเพิ่มรายได้และทำกำไรให้แตะจุดสูงสุดต่อไป